เหตุผลวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คุณเห็น ผี ทั้งที่ไม่อยากเห็น

เหตุผลวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คุณเห็น ผี ทั้งที่ไม่อยากเห็น

July 9, 2021 0 By Lucas

ความเชื่อเรื่องผีสู่ธุรกิจที่ขายได้

สวัสดีค่ะทุกคน…เชื่อได้เลยว่ามีคนไม่น้อยที่กำลังอ่านบทความนี้ จะต้องมีความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจกันอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นความลับที่ใคร ๆ ก็ยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ และกางออกมายืนยันได้อย่างแจ่มแจ้งว่ามันมีจริงหรือไม่มีจริงกันแน่

และด้วยความเชื่อของคนในหลาย ๆ ท้องถิ่น แน่นอนเลยว่าเรื่องราวเล่านี้ไม่เพียงแต่จะถูกเล่าขานเพียงอย่างเดียว แต่เรื่องราวลี้ลับยังถูกนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจต่าง ๆ ทั้งเรื่องของวิถีชีวิต เครื่องรางของขลัง ตลอดจนความบันเทิง ก็ยังมีเนื้อหาขนหัวลุกสอดแทรกอยู่เสมอเช่นกัน และแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้งว่าภาพยนตร์แนวนี้ ‘ขายได้’ และ ‘ขายดี’ เอามาก ๆ

ความเชื่อเรื่องผีสู่ธุรกิจที่ขายได้

ความเชื่อเรื่องผีสู่ธุรกิจที่ขายได้

เมื่อคนพิสูจน์ไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ล่ะ?

คนจำนวนไม่น้อยเคยกล่าวอ้างว่าได้เจอภูตผีในรูปแบบต่าง ๆ มาแล้ว แต่เรื่องนี้ BBC Thai ได้มีการกล่าวอ้างว่านักวิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นคว้าในประเด็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ ได้ออกมายืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานรูปธรรมใด ๆ ที่ชี้ชัดว่าผีมีจริง ซึ่งแท้จริงอาจเกิดขึ้นโดยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้

เกิดจากความปกติในการนอนหลับ

  • บ่อยครั้งคุณเคยได้รับฟังหรือเคยประสบกับประสบการณ์สุดหลอนอย่าง ‘ผีอำ’ ที่เหมือนมองเห็นร่างเงาดำทับร่างเอาไว้จนหายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ หรือหูอาจได้ยินเสียงประหลาด ๆ ร่วมด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางวิทยาศาสตร์จะเรียกกันว่า ความฝันขณะตื่น เป็นภาวะที่สมองยังตื่นอยู่ แต่ร่างกายยังพักผ่อนไม่ตอบสนองใด ๆ ส่วนใหญ่อาการนี้จะเกิดขึ้นมาจากการที่ร่างกายเหนื่อยล้า อดหลับอดนอน หรืออยู่ในสถานที่ที่บรรยากาศน่ากลัว ก็มักเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้เกิดภาวะนี้ได้
เหตุผลวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คุณเห็น ผี ทั้งที่ไม่อยากเห็น

เหตุผลวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คุณเห็น ผี ทั้งที่ไม่อยากเห็น

ความกลัวที่ฝังอยู่ในจิตใจ

  • ความกลัวเป็นอารมณ์พื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายของมนุษย์ นั่นยิ่งส่งผลให้คุณเกิดอาการแพนิก (Panic Attack) ที่เกินกว่าสมองและร่างกายจะควบคุมได้ ท้ายที่สุดก็นำมาสู่การเห็นภาพหลอนต่าง ๆ พร้อมกับมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจติดขัด อาเจียน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมาจากความกลัวที่ฝังอยู่ในจิตใจ ความเชื่อ และมักเห็นอะไรแวบ ๆ ที่หางตาเสมอ

สมองขาดออกซิเจน

  • หากสมองของคนเราขาดออกซิเจน มักส่งผลให้การรับรู้บิดเบือนไปจากความเป็นจริง เห็นภาพหลอนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งในห้วงสุดท้ายของลมหายใจยังทำให้คุณรับรู้ถึงความรู้สึกว่าวิญญาณกำลังล่องลอยออกจากร่างอีกด้วย เหมือนในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ที่มักมีฉากชีวิตเก่า ๆ วนเวียนกลับมาเมื่อตัวละครกำลังจะสิ้นใจไงล่ะ
เมื่อคนพิสูจน์ผีไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้

เมื่อคนพิสูจน์ผีไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้

ร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ

  • ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ถือเป็นก๊าซพิษที่ไม่มีสีและกลิ่น โดยมีหลักฐานยืนยันว่าหากมนุษย์ได้รับแก๊สพิษนี้เข้าไปบ่อย ๆ หรือเป็นเวลานาน จะส่งผลต่ออาการป่วยต่าง ๆ ที่ส่งผลโดยตรงกับสมอง ความคิด ความจำ และพฤติกรรม ซึ่งคนกลุ่มนี้มักจะได้ยินเสียงแว่ว ภาพหลอน แถมยังรู้สึกเหมือนมีใครมาสัมผัสร่างกายอีกด้วย

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีส่วน

  • บางครั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ หรือไม่ก็เกิดจากการทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สมองของคุณเกิดภาวะดังกล่าว เกิดภาพหลอน รู้สึกเหมือนหลุดไปอีกมิติ สภาพอากาศเย็นผิดปกติ หรือมีพลังงานบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่นั่นเอง
คนยังเชื่อในเรื่องลี้ลับอยู่เหมือนเดิม

คนยังเชื่อในเรื่องลี้ลับอยู่เหมือนเดิม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนยังคงมีความเชื่อเรื่องลี้ลับอยู่

ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะเอาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาชี้แจงมนุษย์กี่ร้อยกี่พันครั้ง แต่หากร่างกายและสภาพจิตใจของคนยังมีความเชื่ออยู่ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตำนานเรื่องลี้ลับต่าง ๆ ก็จะถูกปลูกฝังเช่นนี้ไปอีกนานแสนนาน

เพราะขนาดวิทยาศาสตร์ยังมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แล้วทำไมความเชื่อที่มีอยู่จะไม่มีเหตุผลล่ะจริงไหม? เพราะอะไรที่เกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องเริ่มต้นมาจากสิ่งที่เป็นความจริงมาก่อนเสมอ แต่ถึงอย่างไรก็เชื่อกันแบบพอดี เชื่อในขอบเขต ไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากไป เพราะหากคุณกังวลมากไปคุณอาจได้ใช้ประกันสุขภาพแบบไม่รู้ตัวก็ได้